วันพฤหัสบดีที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

Liverpool ที่รัก 15: เดินชมเมือง

Liverpool Metropolitan Cathedral แห่งนี้เป็นหนึ่งในสถานที่ที่เป็น Landmark ของ Liverpool ผมไม่ค่อยทราบรายละเอียดและความสำคัญเท่าไร รู้แค่ว่าเป็นสถานที่อยู่อาศัย เอ๊ย! สถานที่ปฏิบัติงานของอาร์ชบิชอปของเมืองลิเวอร์พูล สถานที่นี้อยู่ติดกับมหาวิทยาลัยอีกแห่งของลิเวอร์พูลซึ่งก็คือ University of Liverpool (ผมอยู่ที่ Liverpool John Moores University) ต้องเดินขึ้นไปทางเหนือของใจกลางเมืองพอสมควร ทางเป็นเนินด้วย เหนื่อย !

ด้านหลังของ Liverpool Metropolitan Cathedral 
มองไปด้านข้าง จะเห็น University of Liverpool
ผมเดินไปที่ด้านหลังกันก่อน (ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ฮ่า) จากนั้นค่อยเดินมาทางด้านหน้า ซึ่งเจอกับเจ้าหน้าที่ที่เค้าบอกว่า ปิดแล้วครับ (ตอนนั้นประมาณ 5 โมงเย็น) พวกเราก็เลยทำไรไม่ได้นอกจากถ่ายรูปกันด้านนอกเท่านั้นเอง
เมื่อมองไปทาง University of Liverpool (รูปนี้เอาไปหลอกเพื่อนได้ว่าถ่ายจากลอนดอน ฮ่า)
แชะรูปกับทางด้านหน้าของ Liverpool Metropolitan Cathedral 
แม้จะค่อนข้างเย็นแล้ว แต่พระอาทิตย์ก็ยังฉายแสงสว่างอยู่พอสมควร พวกเราเลยตกลงจะไปที่ Albert Dock กันอีกที่นึง (ที่ที่ผมไปมาแล้วเมื่อวานนี้) การจะไปถึง Albert Dock นี่ต้องเดินผ่าเมืองไป เพราะว่าอยู่อีกด้านนึงของเมือง ตอนนี้มีความรู้สึกว่ารองเท้ามันบีบหัวแม่เท้ามากเลย อาจเป็นเพราะว่าวันนี้เดินเยอะ อีกทั้งรองเท้ามันอาจยังใหม่อยู่ เลยไม่ค่อยชิน 
สภาพของเมืองยามเย็น รถราวิ่งกันขวักไขว่
ผมพบว่าทางจักรยานในเมืองนั้นมีอยู่ทั่วไป ทางเรียบ กว้างดีด้วย มีสัญลักษณ์ที่ชัดเจน แล้วก็มีจุดที่ให้เช่าจักรยานสีเขียวๆของเมืองอยู่ทั่วไปหมด ซึ่งเห็นแล้วเป็นอะไรที่เมืองไทยน่าจะเลียนแบบจริงๆ ใครเป็นนักปั่นนี่น่าจะชอบเลย
เจออีกแล้ว จุดเช่าจักรยานของเมืองนี้
เดินมาอีกหน่อยนึงก็พบตึกที่เขียนเอาไว้ว่า Liverpool John Moores University ซึ่งทำให้ผมได้รับความรู้ใหม่ว่า มหาลัยนี้มีหลาย Campus (วิทยาเขต) ซึ่งแต่ละวิทยาเขตนั้นห่างกันไม่มาก แต่กระจายอยู่ทั่วเมือง แต่ Campus ที่ผมจะต้องไปทำวิจัยไม่ได้อยู่ตรงนี้นะ
อีก Campus หนึ่งของ Liverpool John Moores University 
จากนั้นเพื่อนผมก็ชี้ให้ดูผับๆหนึ่งชื่อ The Flute เพื่อนผมบอกว่า เพื่อนๆพี่ๆคนไทยจะมารวมตัวดูบอลกันที่นี่บ่อยๆ ถือเป็นผับประจำของคนไทยอีกแห่งหนึ่ง ในวันนี้มีถ่ายทอดบอลด้วยซึ่งลิเวอร์พูลจะพบกับบาเซิลตอนทุ่ม 45 พี่ๆเค้าก็นัดมาดูบอลกัน ผมและพี่ๆอีก 2 คนก็เลยบอกว่างั้นเดี๋ยวมาด้วยดีกว่า จะเป็นการดูลิเวอร์พูลแข่งขันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่มาอยู่ลิเวอร์พูล (งงว่ะ) ก็คือนัดนี้ลิเวอร์พูลออกไปเยือนนั่นเอง เลยต้องดูถ่ายทอดสด
The Flute ผับประจำของคนไทยที่นี่ (เพื่อนบอก)
บ้านแบบอังกฤษ ปล่องไฟบานเลย
เดินกันมาจนสุดถนนก็พบกับซากโบสต์เก่า เพื่อนผมบอกว่าเค้าเรียกกันว่า บอมบ์เชิร์ต ( Bomb Church) หรือโบสถ์ที่โดนระเบิด ก็คือว่าโบสถ์นี้โดนระเบิดในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 แล้วก็ไม่ได้ซ่อมแซม ปล่อยมันไว้แบบนี้เลย ทางเมืองลิเวอร์พูลได้ให้นิยามเกี่ยวกับโบสถ์นี้ว่า "จะมีเมืองไหนในโลกที่เราจะได้เดินในเมืองสมัยใหม่แล้วผ่านสถานที่สุดคลาสสิคแบบนี้ทุกๆวัน" เออจริงแฮะ
บอมบ์เชิร์ช ส่วนที่พังคือข้างใน
ถนนอีกเส้นหนึ่งที่จะนำไปสู่สถานีรถไฟ Liverpool Lime Street
พวกผมเดินผ่าเมืองโดยใช้ถนนที่ชื่อว่า Bold Street สักแป๊บก็มาถึงกลางเมือง 
บริเวณที่เรียกว่าใจกลางเมือง คนเยอะมากๆ
เพื่อนผมเลยพาเดินไปยังอีกที่นึงก่อนซึ่งอยู่ใกล้ๆ นั่นคือผับอันโด่งดังที่ชื่อว่า The Cavern ทำไมถึงดังน่ะเหรอ ก็เพราะว่ามันเป็นผับที่วง The Beatles แสดงและโด่งดังจากที่นี่นั่นเอง ผับนี้ต้องเข้าไปในซอยซอกแซกเล็กน้อย แต่บอกตรงๆว่าได้บรรยากาศมาก ผับนี้ตอนนี้ถูกอนุรักษ์ไว้ (ยังเปิดอยู่) มีรูปปั้น John Lennon อยู่ด้านหน้า ผมสังเกตุเห็นคนมาแวะเวียนถ่ายรูปกันไม่ได้ขาดเลย ถือเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ใครมาลิเวอร์พูลแล้วก็ห้ามพลาดเด็ดขาด
รูปปั้น John Lennon กับผมเอง อิอิ
โฉมหน้าของสี่หนุ่มวง The Beatles และหนึ่งหนุ่มจากไทย แฮ่ม!
เดินมาไกลโคตรๆ ในที่สุดพวกผมก็มาถึง Albert Dock โดยผมมาแล้วเมื่อวานนี้ เลยไม่ค่อยตื่นเต้นเท่าเดิม ฮ่า อย่างไรก็ตาม วิวแถวๆนี้ก็ยังน่าหลงไหลเสมอสำหรับผู้มาใหม่สำหรับผม พอมาถึงนี่ก็เกือบ 6 โมงครึ่งละ พระอาทิตย์ตกดินพอดี วิวและแสงกำลังสวยเลย ผมและพวกพี่ๆก็เลยอยู่ถ่ายรูปกันแป๊บนึงอย่างมันส์
Albert Dock อีกมุมหนึ่ง
Albert Dock ยามเย็น ให้เพื่อนผมเป็นนายแบบ ฮ่า
Royal Liver Building ยามเย็น สวยมากจริงๆ
แสงหมดไปอย่างรวดเร็ว พี่สองคนนั้นเลยชวนกินข้าว พี่ๆบอกว่าอยากกินบุฟเฟ่ต์แบบชาบู เพื่อนผมก็เลยแนะนำให้ร้านนึง (มาไม่กี่วันก็กินบุฟเฟ่ต์เลย ฮ่า) พวกเราเลยตัดสินใจนั่งแท๊กซี่ไปร้านนั้นกัน ร้านนั้นอยู่ที่ถนน Bold Street ตอนบอกแท็กซี่ก็บอกตามสำเนียงที่เคยเรียนมาว่า โบว์สตรีท ปรากฏว่าแท็กซี่งง ไม่เข้าใจ ต้องพูดกันอยู่หลายรอบ สุดท้ายแท็กซี่ก็อ๋อ แล้วก็บอกว่า โบ๊วววววว สตรีท (คือฮามาก ต้องลากเสียงยาวๆ) พวกเราเลยฝึกโบ๊วววว สตรีทกันหลายรอบอยู่บนรถ ตอนแท็กซี่วิ่งรู้สึกว่ามันขับเหวี่ยงๆชอบกล สงสัยแท็กซี่คิดว่าล้อเลียนมันแน่เลย ฮ่าฮ่า โบ๊ววววว สตรีท

บุฟเฟต์ราคาประมาณคนละ 10 ปอนด์มั้ง (ถ้าจำไม่ผิด) ก็คล้ายๆที่ไทย คือมีเนื้อหลายอย่าง มีอาหารทะเลด้วย มีน้ำซุปสองแบบ มีคนเดินมาบริการน้ำเทน้ำให้ (ร้านนี้น่าจะเป็นร้านคนจีน) รสชาติก็ค่อนข้างดีนะ เสียอย่างเดียวคือน้ำจิ้ม ไม่มีความเผ็ดเลย เป็นน้ำจิ้มถั่วบด ไม่มีพริกให้ใส่ด้วย ผมเห็นโต๊ะข้างๆคงมากินบ่อย พี่แกเล่นเอาซอสสุกี้ตราสุรีย์จากไทยวางบนกลางโต๊ะเลย (มีขายที่นี่ ไว้ค่อยเล่า) กินกันจนใกล้ๆทุ่ม 45 ซึ่งบอลจะมาแล้ว พี่ๆเค้าเลยบอกให้ผมกับเพื่อนไปที่ผับกันก่อน เดี๋ยวเค้าตามไป ขอกินอีกหน่อย ส่วนมื้อนี้เค้าเลี้ยงเอง ผมนี่เกรงใจจริงๆ (แต่ก็เอานะ ฮ่าฮ่า ล้อเล่น) ผมและเพื่อนก็เลยรีบไปที่ผับกัน

ไปถึงผับก็พบว่าคนแน่นเลย เดินไปจนถึงโต๊ะนึงมีคนไทยอยู่เต็มเลย ผมก็เห็นใครน่าจะแก่กว่าก็ไหว้ดะเลย ฮ่า มีคนนึงชื่อพี่บิ๊ก (ไว้เล่าตอนต่อๆไป) ก็ได้พูดได้คุยกันบ้างว่าเป็นใครมาจากไหน เพื่อนผมซื้อโค้กมาเลี้ยงแก้วนึง (แก้วใหญ่) เนื่องจากผมไม่ดื่มของมึนเมา สักพักบอลก็มา คนในผับเชียร์กันมันส์มาก
บรรยากาศภายในผับ ทุกคนมีสมาธิกับการดูบอล
พวกพี่ๆอีก 2 คนเค้าโผล่มาที่ผับกันตอน 2 ทุ่มครึ่ง บอลจบครึ่งแรกพอดี (ยัง 0-0 อยู่) พี่ๆเค้าแวะมาคุยมาขอบคุณที่พาเค้าเที่ยวกัน เค้าบอกสนุกมากจริงๆ ไปมากี่เมื่องๆก็ไม่เคยได้เจอคนไทยพาเที่ยวเลย สักแป๊บพี่เค้าก็ขอตัวเพราะต้องขึ้นรถไฟกลับลอนดอนคืนนี้เลย 
แก๊งคนไทยในวันนี้ พี่ๆสองคนใจดีจริงๆ เลี้ยงชาบูกับคนแปลกหน้าด้วย ขอบคุณครับ :)
ลิเวอร์พูลเล่นห่วยจริงๆนัดนี้ จากเสียงเชียร์เริ่มมีเสียงตะโกนด่า พูดเสียดสี สุดท้ายโดนนำท้ายเกมส์ แล้วก็แพ้จนได้ (0-1) ทุกคนในผับดูหงุดหงิด ผมนี่ขึ้นเลย มาดูถึงที่ดันแพ้อีก เซ็ง เดินกลับหอดีกว่า

เดินไปก็กลัวไป ไม่เคยอยู่ถึงดึกๆมาก่อน กลัวโดนดักตีหัว ก็พยายามเดินตามถนนที่มันสว่างๆเข้าไว้ (ไฟถนนที่นี่สว่างมากจริงๆ เตะบอลได้เลย) ถึงหอเกือบ ๆ 4 ทุ่ม อาบน้ำ จากนั้นก็เช็คเมลล์ว่าทางมหาลัยติดต่อมารึยัง จะให้ไปทำวิจัยวันไหน ปรากฏว่ายังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ

พรุ่งนี้ไปเที่ยวไหนต่อดีน้า ฮ่า...